การทำความเข้าใจคำศัพท์เฉพาะในวงการเพชรเป็นก้าวแรกที่สำคัญสำหรับผู้ที่สนใจหรือกำลังเข้าสู่วงการนี้ ไม่ว่าจะเพื่อการลงทุน การสะสม หรือการเลือกซื้อเครื่องประดับที่มีคุณภาพ การรู้จักคำศัพท์เพชรที่ต้องรู้เหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถสื่อสารและเข้าใจข้อมูลเกี่ยวกับเพชรได้อย่างถูกต้องและลึกซึ้งยิ่งขึ้น

คำศัพท์เพชรที่ต้องรู้

คำศัพท์เพชรที่ต้องรู้เป็นพื้นฐานในการเข้าวงการเพชร

1. Sparkle หรือ Scintillation (ประกายระยิบระยับ)

หมายถึงการเปล่งประกายของเพชรเมื่อมีการเคลื่อนไหวหรือเมื่อแสงกระทบกับพื้นผิวของเพชร ประกายนี้เกิดจากการสะท้อนของแสงภายในเพชรที่ถูกเจียระไนอย่างประณีต เพชรที่มี Scintillation ดีจะมีประกายที่สดใสและน่าดึงดูดใจ

2. Brilliance (ความสว่าง)

เป็นความสามารถของเพชรในการสะท้อนแสงสีขาวกลับสู่สายตา Brilliance ที่ดีจะทำให้เพชรดูสว่างและมีชีวิตชีวา ซึ่งขึ้นอยู่กับการเจียระไนและสัดส่วนของเพชร

3. Fire (การกระจายแสงสี)

หมายถึงการกระจายของแสงสีรุ้งที่เกิดขึ้นเมื่อแสงผ่านเข้าไปในเพชรและถูกหักเหออกมาเป็นสีต่าง ๆ Fire ที่ดีจะทำให้เพชรมีสีสันที่สวยงามและน่าประทับใจ

4. Clarity Characteristics (ลักษณะความใส)

เป็นตำหนิหรือสิ่งเจือปนที่พบในเพชร ทั้งภายใน (Inclusions) และภายนอก (Blemishes) ตำหนิเหล่านี้มีผลต่อความใสและมูลค่าของเพชร การประเมิน Clarity จะช่วยให้ทราบถึงคุณภาพของเพชร

อ่านเพิ่มเติม: การดูเพชรแท้ฉบับ GLOW

5. Table Size (ขนาดหน้าตัดด้านบน)

คือขนาดของพื้นผิวด้านบนสุดของเพชร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่แสงเข้าสู่เพชร ขนาดที่เหมาะสมจะอยู่ระหว่าง 52%–60% ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเพชร ซึ่งจะช่วยให้เพชรมีความสว่างและประกายที่ดี

6. Total Depth (ความลึกทั้งหมด)

เป็นระยะจากด้านบนสุด (Table) ถึงด้านล่างสุด (Culet) ของเพชร ความลึกที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 59%–62.5% ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเพชร ซึ่งจะช่วยให้แสงสะท้อนภายในเพชรได้อย่างมีประสิทธิภาพ

7. Crown Height (ความสูงของมงกุฎ)

คือระยะจากขอบ (Girdle) ถึงด้านบนสุด (Table) ของเพชร ความสูงที่เหมาะสมจะอยู่ที่ประมาณ 13.5%–16.8% ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเพชร ซึ่งจะส่งผลต่อการกระจายแสงและความสว่างของเพชร

8. Culet (จุดปลายด้านล่าง)

เป็นจุดเล็ก ๆ ที่ด้านล่างสุดของเพชร ในเพชรสมัยใหม่มักจะไม่มี Culet หรือมีขนาดเล็กมาก เพื่อป้องกันไม่ให้แสงรั่วออกจากด้านล่างของเพชร

9. Girdle (ขอบเพชร)

คือขอบรอบ ๆ เพชรที่แยกระหว่างส่วนบน (Crown) และส่วนล่าง (Pavilion) Girdle ที่มีความหนาเหมาะสมจะช่วยป้องกันการแตกหักและส่งผลต่อการตั้งเพชรในตัวเรือน

10. Pavilion Angle (มุมของฐานเพชร)

เป็นมุมที่เกิดจากการเจียระไนระหว่าง Girdle และฐานของเพชร มุมที่เหมาะสมจะอยู่ระหว่าง 40.6°–41.8° ซึ่งจะช่วยให้แสงสะท้อนกลับขึ้นมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ

11. Pavilion Depth (ความลึกของฐานเพชร)

คือระยะจาก Girdle ถึง Culet ความลึกที่เหมาะสมจะช่วยให้แสงสะท้อนภายในเพชรได้ดี หากลึกเกินไปหรือตื้นเกินไปจะทำให้เพชรดูหม่นและไม่มีประกาย

สรุป

การเข้าใจคำศัพท์พื้นฐานในวงการเพชรจะช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อเพชรที่มีคุณภาพและเหมาะสมกับความต้องการของคุณได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถสื่อสารกับผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ขายเพชรได้อย่างมีประสิทธิภาพ