คุณค่าที่ไม่อาจเทียบได้
Lab-Grown Diamond (เพชรแท้จากแล็บ) นั้นมีค่าใช้จ่ายในการผลิตน้อยกว่าเพชรธรรมชาติถึง 1 ใน 3 แต่ผู้ซื้อก็ควรระมัดระวังในการซื้อเพชรที่เพาะจากในห้องปฏิบัติการซึ่งมีราคาขายเพียงไม่กี่พันบาทต่อกะรัต ถ้าการซื้อขายนั้นดูเหมือนจะคุ้มเกินจริง อาจเป็นไปได้ว่าเพชรนั้นอาจไม่คุ้มค่า เพราะเพชรที่อยู่ในช่วงราคานี้ได้จะมีแต่เพชรเลียนแบบเท่านั้นซึ่งไม่ใช่เพชรแท้แบบ Lab-Grown Diamond (เพชรแท้จากแล็บ)
ซึ่งเพชรเลียนแบบนั้นถึงแม้จะมีรูปลักษณ์ที่คล้ายเพชรแต่ยังไม่เหมือนเพชรสักทีเดียว ทั้งความแข็ง ความสามารถในการนำความร้อน หรือโครงสร้างต่างๆทางเคมี ในขณะที่ Lab–Grown Diamond (เพชรแท้จากแล็บ) นั้นมีคุณลักษณะเหมือนเพชรแท้ทุกประการ ต่างกันที่ตำหนิจากธรรมชาติที่น้อยกว่า และระยะเวลาในการผลิตที่สั้นกว่า
ดังนั้นก่อนจะเลือกซื้อเพชรนั้นควรศึกษาให้แน่ใจว่าเพชรที่มาจะแล็บนั้นเป็น Lab-Grown Diamond (เพชรแท้จากแล็บ)จริงหรือไม่ ซึ่งวิธีการที่ง่ายที่สุดคือการมองหาใบรับรองที่ออกโดยสถาบันที่น่าเชื่อถือ เพราะ Lab–Grown Diamond (เพชรแท้จากแล็บ) นั้นสามารถขอใบรับรองจาก IGI (International Gemological Institute) หน่วยงานที่ออกใบรับรองคุณภาพเพชรระดับสากลได้ไม่ต่างจากเพชรธรรมชาติเช่นกัน
โดยสถาบันออกใบเซอร์เพชรที่ได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีอยู่ 5 สถาบันหลักๆ ด้วยกันได้แก่
- IGI ย่อมาจาก International Gemological Institute เป็นสถาบันที่มีสาขาเยอะที่สุดในโลก
- GIA ย่อมาจาก Gemological Institute of America เป็นสถาบันอัญมณีหลักของประเทศสหรัฐอเมริกาและมีสำนักงานกระจายออกไปตามประเทศที่เป็นแหล่งผลิตและจำหน่ายอัญมณีหลักๆของโลก
- HRD หรือ HRD Antwerp เป็นสถาบันอัญมณีของประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าเพชรและศูนย์กลางการเจียระไนอันดับหนึ่งของโลก มีสำนักงานตั้งอยู่ที่ประเทศเบลเยี่ยมเพียงที่เดียว
- EGL ย่อมาจาก European Gemological Laboratory เป็นสถาบันของยิว
- AGS ย่อมาจาก American Gem Society สถาบันตั้งอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นสถาบันที่เน้นทางด้านการคัดเกรดของเพชร